นักสืบแห่งประเทศไทย

วิธี ตามหาคนหาย เบื้องต้นก่อนจ้างนักสืบเอกชน

ตามหาคนหาย
ตามหาคนหาย

ตามหาคนหาย เราเชื่อว่าหลายท่านที่เจอปัญหาคนในครอบครัวหนีออกจากบ้าน ด้วยสาเหตุต่างๆ เช่น ทะเลาะภายในครอบครัว, หนีหนี้, ถูกล่อลวงจากการแชทหรือสื่อทางโซเชียลมีเดีย, ชู้สาว, ผู้ป่วยทางสมอง, อุบัติเหตุ, ลักพาตัว, ติดเกม, หรือขาดการติดต่อ ฯลฯ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุไหน บุคคลเหล่านั้นล้วนเป็นคนสำคัญทั้งสิ้น จึงไม่ควรปล่อยไว้นาน อย่าคิดว่าจะกลับมาเอง เพราะยิ่งนาน ยิ่งตามหาตัวยาก

ปัญหาคือหลายท่านที่ต้องการตามหาคนหาย ล้วนไม่ทราบขั้นตอน หรือวิธีดำเนินการติดตาม เป็นเหตุให้ไม่อาจติดตามบุคคลเหล่านั้นได้ นอกจากการรอให้ถึง 24 ชั่วโมงเพื่อแจ้งความคนหายแล้ว การจ้างนักสืบเอกชนตามหาคนหาย จึงเป็นอีกวิธีที่หลายท่านนิยมใช้บริการ

จากเหตุผลดังกล่าว นักสืบแจ๊คจึงขอแนะนำวิธีการตามหาคนหายเบื้องต้น ที่สามารถนำไปใช้ได้จริง ก่อนที่จะถึงเวลาแจ้งความ(24ชม.) หรือรอขั้นตอนตามกฎหมาย หรือก่อนที่จะ จ้างนักสืบตามหาคนหาย เพื่อเพิ่มโอกาสในการเจอตัวที่มากขึ้นครับ

สารบัญเว็บไซต์

วิธีการตามหาคนหายเบื้องต้น

ปัญหาที่ครอบครัวคนหายพบเสมอในการติดตามหาพ่อแม่หรือญาติที่ขาดการติดต่อ ตามหาเพื่อน หรือแฟนนั้น บุตรหลานที่หายจากโซเชียลมีเดีย เช่นการแชทเฟซบุ๊ก, แชทไลน์ทางโทรศัพท์, แชทข้อความทางเกมต่างๆคือ ไม่ทราบขั้นตอน หรือวิธีการดำเนินการติดตาม เป็นเหตุให้ไม่อาจติดตามหาบุคคลเหล่านั้นได้ ซึ่งหากแบ่งวิธีการดำเนินการติดตาม สามารถแบ่งออกมาได้ ดังนี้ครับ

วิเคราะห์อุปนิสัยและพฤติกรรมของคนหาย

หมายถึงการที่ครอบครัวของคนหาย นำอุปนิสัยพฤติกรรมและการแสดงออกของของคนหายมาเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ถึงเบาะแสในการติดตามคนหาย โดยข้อมูลในส่วนนี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากพฤติกรรรมและการแสดงออกของคนหาย จะเชื่อมโยงกับสถานที่ซึ่งคนหายอาจจะพลัดหลงไป เช่น

  1. พฤติกรรมการขึ้นรถประจำทางของคนหาย ครอบครัวคนหายควรตรวจสอบว่ารถประจำทางสายใดบ้างที่ผ่านบริเวณบ้าน หรือสถานที่ซึ่งคนหายพลัดหลงไปซึ่งจะทำให้ทราบเบาะแส ว่าควรจะไปตามคนหายที่ใดได้บ้าง
  2. พฤติกรรมการเดินทางออกนอกบ้าน นอกจากข้อ 1แล้ว การให้เพื่อนคนเดิมๆมารับเป็นประจำ หรือมีคนเดิมๆมารับบ่อยๆ ก็น่าสงสัยเช่นกันครับ
  3. คนหายที่ไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ หากคนหายที่ไม่สามารถอ่านหนังสืออาจจะกำลังเดินไปเรื่อยๆ ในการประเมินสถานการณ์เบื้องต้นว่าคนหายจะเดินทางพลัดหลงไปที่ใดได้บ้าง
  4. พฤติกรรมการไปสถานที่ซึ่งคาดว่าคนหายไป ควรตรวจสอบยังสถานที่ซึ่งคนหายคุ้นเคยหรือไปเป็นประจำ เช่น ที่ทำงาน, ผับ-บาร์, บ้านเพื่อนสนิท, ฯลฯ ซึ่งมีโอกาสสูงที่คนหายอาจไปครับ

การสืบค้นเบาะแสจากบุคคลแวดล้อม

การสืบค้นเบาะแสจากบุคคลแวดล้อมถือว่าเป็นการหาเบาะแสสำคัญในการตามหาคนหายที่เจตนาหลบหนี เนื่องจากคนหายไปในลักษณะดังกล่าวอาจจะเคยเล่าข้อมูล ให้เพื่อนสนิทฟังว่ากำลังคบหาพูดคุยกับใครในอินเตอร์เน็ต หรืออาจจะเคยเล่าให้ฟังว่ามีใครในอินเตอร์เน็ตนัดไปเจอ หรือกำลังหลบหนีอะไร หรือมีปัญหาใด

สมาชิกในครอบครัว

สมาชิกในบ้าน คือ บุคคลที่มีความสนิทสนมและใกล้ชิดกับคนหายมากที่สุด โดยเฉพาะในครอบครัวใหญ่ซึ่งมีสมาชิกหลายคน คนหายอาจจะให้ความสนิทสนมกับคนในครอบครัวบางคนที่เขาไว้ใจมากที่สุด และอาจจะเล่าหรือระบายเรื่องราวต่างๆให้ฟังซึ่งข้อมูลตรงจุดนี้อาจจะนำมาประมวลเป็นเบาะแสได้ เช่น คนหายอาจจะเคยเล่าถึง เพื่อนสนิทหรือเพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันในการเล่นแชทไลน์ทางอินเตอร์เน็ตซึ่งเมื่อนำข้อมูลต่างๆ มาประมวลกันแล้วอาจจะทำให้เรา ทราบว่าคนหายอาจจะไปพักอาศัยอยู่กับใคร

เพื่อนคนหาย

เพื่อนคนหายถือว่าเป็นตัวแปรสำคัญในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับคนหาย เนื่องจากคนที่หายไปนั้นอาจจะเคยเล่าเรื่องราว ปัญหาต่างๆ ให้เพื่อนๆที่สนิทฟัง หรือไม่บางครั้งเพื่อนสนิทของคนหายก็อาจจะเป็นกลุ่มที่เล่นแชทไลน์ทางอินเตอร์เน็ต หรือมีปัญหาด้วยกัน ซึ่งจะทำให้ครอบครัวคนหาย ทราบข้อมูลเกี่ยวกับคนที่ล่อลวงคนหายไปว่าเป็นใคร เพื่อนสนิทของคนหาย คือ บุคคลที่อาจจะให้ที่พักพิงกับคนหายหรือ ให้คนหายยืมเงินดังนั้นเพื่อนสนิทถือว่าเป็นกุญแจสำคัญที่จะหาความจริงว่าคนหายไปอยู่ที่ไหน

กรณีเด็กต่ำกว่า18ปีการสอบถามเพื่อนสนิทของคนหายนั้นทางครอบครัวไม่ควรไปสอบถามเองโดยตรง แต่ควรให้อาจารย์ประจำชั้นหรือผู้ปกครองเป็นผู้เรียกเด็กมาสอบถามเป็นรายคนจะได้รับคำตอบที่ตรงกับความเป็นจริงมากกว่า ทั้งนี้เพราะเพื่อนของเด็กอาจจะยำเกรงผู้ปกครองของตนเองและอาจารย์ประจำชั้นมากกว่าเรา

การตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของคนหาย

การสืบสวนติดตามหาคนหายในกรณีเจตนาหลบหนี, การติดเล่นแชทไลน์ทางอินเตอร์เน็ต, หรือชู้สาว ควรเริ่มจากการตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของคนหาย เนื่องจากจะมีข้อมูลที่เชื่อมโยงกับบุคคลที่ติดต่อพูดคุยกับคนหายทางโทรศัพท์ เนื่องจากคนหายอาจจะเคยแลกเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์กับผู้ที่พาคนหายไป ซึ่งการตรวจสอบข้อมูลทางโทรศัพท์มีทั้งประเภทที่ครอบครัวคนหายสามารถขอตรวจสอบกับผู้ให้บริการได้เอง กับประเภทที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการตรวจสอบให้ หรือแม้แต่การจ้างนักสืบเอกชนเช็กเบอร์ก็ตาม

การตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของแต่ละเครือข่าย กรณีต้องดำเนินการด้วยตนเอง เอกสารที่จำเป็นจะต้องใช้มีดังนี้

  1. หนังสือขอความร่วมมือจากสถานีตำรวจ ลงนามโดย นายตำรวจชั้นสัญญาบัตร, พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี, หรือนายตำรวจยศพันตำรวจเอก(ผู้กำกับการ)ขึ้นไป
  2. แนบเอกสารบันทึกทางคดี หรือหลักฐานการแจ้งความ
  3. ส่งเอกสารดังกล่าวเป็นจดหมายเท่านั้น ที่บริษัทเครือข่ายของเบอร์คนหาย หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง
  4. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ของศูนย์บริการเครือข่ายเบอร์ของคนหาย

การตรวจสอบข้อมูลการใช้อินเตอร์ของคนหาย

อีกวิธีการหนึ่งที่สำคัญ คือ ให้สมาชิกในครอบครัวที่เล่นแชททางอินเตอร์เน็ตได้แอดอีเมล์ของคนหายและผู้ที่ต้องสงสัยว่าพาคนหายไปเพื่อปลอมตัวเข้าไป สนทนากับบุคคลทั้งคู่ในกรณีที่บุคคลดังกล่าวอาจจะออนไลน์ในโปรแกรมแชทแต่ทั้งนี้ อีเมล์ของผู้ที่ปลอมตัวเข้าไปคุยนั้นคนหายต้องไม่รู้จักโดยการพูดคุยกันนั้นให้คุยเรื่องทั่ว ไปก่อนเพื่อให้บุคคลนั้นไว้ใจและจึงถามข้อมูลส่วนตัวว่าคนหายหรือคนที่ต้องสงสัยว่าพาคนหายไป กำลังเล่นอยู่บริเวณไหน มีเบอร์ติดต่อหรือไม่

หาเบาะแสจากห้องนอนของคนหาย

การหาข้อมูลในห้องนอนของคนหาย คือ แนวทางค้นหาเบาะแสอีกทางหนึ่งในการติดตามหาคนหาย เมื่อเข้าไปยังห้องนอนของคนหายแล้วสิ่งที่ ควรสอบเช่น

ตู้เสื้อผ้าของคนหาย

ตู้เสื้อผ้าของคนหาย คือ การตรวจสอบว่าคนหายมีการเก็บเสื้อผ้าไปด้วยหรือไม่ เนื่องจากพฤติกรรมการเก็บเสื้อผ้าแสดงออกได้ถึงการเตรียมตัวเป็นอย่างดีของคนหายในการหนีออกจากบ้าน ซึ่งหากคนหายไม่เก็บเสื้อผ้าไปเลยควรตั้งประเด็นสาเหตุการหายไปในกรณีอื่นๆด้วย เช่น การเกิดอุบัติเหตุหรือเกิดเหตุฉุกเฉินกับคนหาย จึงทำให้คนหายไม่กลับบ้านตามปกติ ทั้งนี้ การหายออกจากบ้านบางกรณีคนหายก็ไม่เก็บเสื้อผ้าหรือทรัพย์สินใดๆไปด้วยเลย

สมุดบันทึก หนังสือ ของคนหาย

การตรวจสอบสมุดบันทึก, หนังสือเรียน, ฯลฯ ของคนหายอาจจะทำให้พบเบาะแสสำคัญในการติดตามคนหาย เนื่องจากคนหายอาจจะเคยจดหมายเลขโทรศัพท์ อีเมล์ ที่อยู่ หรือชื่อคนที่รู้จักกันทางแชทไลน์ หรือสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ไว้ในเอกสารเหล่านั้นซึ่งจะทำให้ครอบครัวทราบเบาะแสเพิ่มเติมในการติดตามคนหาย

การตรวจสอบ จุดที่คนหายเก็บเงินหรือทรัพย์สินไว้ เพื่อตรวจดูว่าคนหายได้มีการเก็บทรัพย์สินไปหรือไม่ การที่คนหายเก็บทรัพย์สินไปด้วยทั้งหมดหมายถึงมีการเตรียมตัวที่จะหายออกจากบ้านมีเจตนาหลบหนีที่ชัดเจน แต่หากว่าทรัพย์ของคนหายยังคงอยู่ที่เดิมไม่มีการเคลื่อนย้าย หรือไม่นำติดตัวไปด้วยนั่นอาจหมายถึงว่าคนหายไม่มีการเตรียมตัวก่อนหายไป หรือไม่ได้ตั้งใจที่จะไป ซึ่งกรณีดังกล่าวควรตั้งประเด็นสาเหตุการหายไปในกรณีอื่นๆด้วย เช่น การเกิดอุบัติเหตุหรือเกิดเหตุฉุกเฉินกับคนหายจึงทำให้คนหายไม่กลับบ้านตามปกติ

กระดาษ หรือจดหมาย ที่คนหายอาจจะเขียนลา

การตรวจสอบยังห้องนอน หรือบริเวณที่คนหายใช้พักผ่อนเป็นประจำ คือ สถานที่ซึ่งคนหายอาจจะทิ้งจดหมายที่เขียนลาไว้ให้ครอบครัวซึ่งหลักฐานดังกล่าว อาจจะเป็นเบาะแสในการชี้ว่าคนหายหายออกจากบ้านไปเพราะสาเหตุใดและอาจจะเชื่อมโยงกับแนวทางการติดตามหาคนหาย

แผนกนิติเวชและประชาสัมพันธ์ตามโรงพยาบาลต่างๆ

แผนกนิติเวชและประชาสัมพันธ์ตามโรงพยาบาลต่างๆ(กรณีเสียชีวิต หรือประสบอุบัติเหตุ) ถือว่าเป็นอีกสถานที่หนึ่ง ที่ครอบครัวคนหายควรไปตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับผู้หาย เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตและผู้ประสบอุบัติเหตุหลายรายที่ได้รับการนำส่งมายังแผนกนิติเวชตามโรงพยาบาลต่างๆ เนื่องจากเป็นผู้ที่ไม่มีเอกสารหรือหลักฐานใดแสดงตัวการประสานงานไปยังแผนกนิติเวชตามโรงพยาบาลต่างๆนั้น ควรให้บุคคลในครอบครัวที่มีสภาวะจิตใจที่เข้มแข็งในการโทรไปสอบถามข้อมูล และควรเป็นบุคคลที่สามารถบอกรูปพรรณและตำหนิของคนหายได้อย่างชัดเจน

หน่วยกู้ภัย

หน่วยกู้ภัย เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำหน้าที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการส่งตัวผู้บาดเจ็บให้ได้รับการรักษายังโรงพยาบาล โดยหน่วยกู้ภัยที่ไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บนั้นจะเก็บข้อมูลชื่อและรูปพรรณของผู้บาดเจ็บที่ได้นำส่งโรงพยาบาล ดังนั้น หน่วยกู้ภัยจึงเป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่ครอบครัวคนหายต้องไปตรวจสอบข้อมูล โดยในต่างจังหวัดนั้นให้ติดต่อไปยังหน่วยกู้ภัยที่ทำงานในพื้นที่จังหวัดนั้นๆ หากไม่ทราบว่าเป็นหน่วยงานไหน ให้สอบถามไปยังสถานีตำรวจในพื้นที่นั้นๆเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำงานประสานกับหน่วยกู้ภัยในพื้นที่อยู่แล้ว

การตรวจสอบที่อู่รถโดยสารประจำทาง

ในกรณีที่คนหายสามารถขึ้นรถโดยสารประจำทางเองได้นั้นอาจจะมีความเป็นได้ว่า คนหายอาจจะขึ้นรถประจำทางเพื่อหาทางกลับบ้านแต่ก็ไม่รู้จุดหมายปลายทาง(กรณีคนหายเป็นผู้เยาว์ หรือป่วยอัลไซเมอร์) ว่าจะเดินทางไปที่ใดดังนั้นหากมีความเป็นไปได้ว่าคนหายจะขึ้นรถประจำทาง ครอบครัวคนหายควรตรวจสอบว่ารถประจำทางสายใดบ้างที่ผ่านบริเวณบ้าน แต่หากคนหายไม่สามารถขึ้นรถโดยสารประจำทางได้เพียงลำพังมีความเป็นไปได้ ว่าคนหายดังกล่าวจะใช้วิธีการเดินไปเรื่อยๆเพราะไม่คุ้นเคยในการขึ้นรถ

การแจ้งความคนหายที่สถานีตำรวจ

สถานีตำรวจ คือ สถานที่แรกที่ครอบครัวคนหายควรไปติดต่อ เพื่อแจ้งความคนหาย ซึ่งการไปแจ้งความคนหายนั้นครอบครัวคนหายสามารถตรวจสอบการเกิดอุบัติเหตุ ในท้องที่นั้นๆได้ด้วย เนื่องจากปกติการเกิดอุบัติเหตุต่างๆเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเหตุ จะเดินทางไปสถานที่เกิดเหตุและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งในกรณีเสียชีวิต หรือบาดเจ็บสาหัสนั้น โดยปกติทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือโรงพยาบาลที่รับตัวคนเจ็บไปรักษานั้น จะต้องรีบติดต่อ ครอบครัวคนหายโดยเร็ว จากข้อมูลในเอกสารหรือ บัตรประจำตัวประชาชนของคนหาย

สถานีตำรวจท้องที่อื่นๆที่คนหายเดินทางผ่าน หรือคาดว่าจะผ่านไปยังท้องที่นั้นคือสถานที่ที่ครอบครัวคนหายควรไปดำเนินการติดต่อสอบถามอุบัติเหตุด้วยเช่นกัน ซึ่งการติดต่อสอบถามสถานีตำรวจต่างๆเหล่านี้ ครอบครัวคนหายไม่จำเป็นต้องเดินทางไปด้วยตัวเองแต่อาจจะใช้วิธีโทรสอบถามทางโทรศัพท์ได้

การตรวจสอบยังกรมราชทัณฑ์

อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทางครอบครัวของคนหาย ควรดำเนินการตรวจสอบ หลังจากที่ลองตรวจสอบตามสถานที่ได้แนะนำในข้างต้นหมดแล้ว เนื่องจากว่าในกรณีที่คนหายทำร้ายร่างกายบุคคลอื่นโดยคนหายอาจหลงผิดว่ากำลังโดนบุคคลดังกล่าวปองร้ายเป็นเหตุให้คนร้าย อาจถูกดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายจึงมีความเป็นไปได้ว่าคนหายอาจถูกควบคุมตัวในเรือนจำแห่งใดแห่งหนึ่ง ให้ทางครอบครัวโทรศัพท์ไปสอบถามเรื่องเอกสาร หรือการดำเนินการตรวจสอบดังกล่าว ที่หมายเลขโทรศัพท์ของกรมราชทัณฑ์เลขหมาย 0-2967-2222

จ้างนักสืบ ตามหาคนหาย

สำหรับท่านที่ต้องการจะปรึกษา สอบถามราคา หรือใช้บริการ หรือต้องการจ้างนักสืบแจ๊คและทีมงานให้ช่วยสืบหาคนหาย หรือข้อมูล หาหลักฐานต่างๆสามารถติดต่อหานักสืบแจ๊คได้ตลอดเวลาครับ บริษัทเรามีนักสืบเอกชนระดับแนวหน้าของประเทศไทยที่สามารถหาข้อมูล พยานหลักฐาน ให้ท่านได้อย่างมืออาชีพและเชี่ยวชาญครับ.

อ่านเพิ่มเติม

ตามหาคนหาย, จ้างนักสืบตามหาคนหาย, นักสืบ, นักสืบเอกชน, ติดตามหาคนหาย,