เมื่อประมาณช่วงปลายเดือนเมษายนตลอดจนต้นเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมามีคดีอื้อฉาวถึงความโหดเหี้ยมของฆาตกรสาวที่รู้กันในนาม “แอม ไซยาไนด์” ที่ได้ทำการฆ่าเจ้าหนี้หลายรายเพื่อต้องการล้างหนี้ที่ตนได้กู้ยืมเอาไว้ หลายคนแปลกใจว่าทำไมไม่มีเจ้าหน้าที่มาดำเนินคดีเลยเพราะเหตุการณ์ที่เธอได้มีการฆ่าเจ้าหนี้นั้นไม่ได้เกิดขึ้นครั้งเดียวแต่หากเกิดขึ้นมาหลายครั้งนับไม่ถ้วน นั่นก็คงเป็นเพราะว่าอาจมีคนอื่นรู้เห็นเป็นใจ พร้อมทั้งอดีตสามีของเธอยังเป็นนายตำรวจ หรือมีการเกิดช่องโหว่ในเรื่องการพิสูจน์หลักฐานนั่นเอง แต่ถึงอย่างไรก็ตามการสืบคดี “แอม ไซยาไนด์” ก็นำมาซึ่งผลสำเร็จในท้ายที่สุด
บางท่านอาจจะยังไม่รู้ว่าไซยาไนด์คืออะไร จะขออธิบายให้ทราบกันคร่าว ๆ ซึ่งไซยาไนด์เป็นสารประกอบที่มีพิษสูงจากคาร์บอนและอะตอมไนโตรเจน อย่างละ 1 อะตอม หากเข้าสู่ร่างกาย หากได้รับสารนี้เข้าไปยังร่างกายจะเกิดการยับยั้งการทำงานของเซลล์ โดยเฉพาะบริเวณตรงสมองหรือหัวใจและหลอดเลือดที่ขาดออกซิเจน จะส่งผลให้ร่างกายเกิดอันตรายรุนแรงถึงแก่ชีวิตได้นั่นเอง ในการสืบคดี “แอม ไซยาไนด์” ได้ดำเนินการต่อเนื่องจนพบว่าเงินในบัญชีของเธอมีสูงสุดถึง 78 ล้านบาท ส่วนไทม์ไลน์การก่อคดีพบว่า นางสาวมณฑาทิพย์ หรือ ทราย เป็นเคสแรกตั้งแต่ปี 2558 จากนั้นมาปี 2563 มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1-2 ศพ ต่อมาปี 2565 ผู้เสียชีวิตทยอยเพิ่มมากขึ้นถึง 11 ศพ และในปี 2566 มีผู้เสียชีวิตอีก 3 ศพ ด้วยปริมาณผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจึงนำมาสู่การเชื่อมโยงสอดคล้องกับช่วงที่มีเงินหมุนเวียนในบัญชีจำนวนมากที่เธอมีในบัญชี
ด้วยการสืบคดี “แอม ไซยาไนด์” พบว่าเธอได้นำสารอันตรายไปใช้งานในด้านที่ผิด แต่หากจะมองในด้านที่ถูกต้องแล้วสามารถนำไซยาไนด์มาเป็นใช้เป็นส่วนผสมในเชื้อเพลิง และใช้ในการตัดเหล็กที่ทนความร้อนสูง นอกจากนี้ยังใช้ในอุตสาหกรรมฟอกหนัง เป็นส่วนประกอบของยาฆ่าแมลง เป็นต้น